ปวดหัวบ่อยแบบนี้ เสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง?

ปวดหัวบ่อยแบบนี้ เสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง? อาการปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ เป็นภาวะปวดหัวรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ปวดข้างเดียว หรืออาจปวดบริเวณรอบดวงตา และอาจเกิดขึ้นหลายครั้งภายในวันเดียว ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แนะควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษา

ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ คืออะไร?
อาการปวดศีรษะเป็นหนึ่งในอาการที่ทุกคนเคยเจอมาแล้ว แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าอาการปวดศีรษะนั้นมีหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ อาการปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า cluster headache จะพบได้ไม่บ่อยเท่าปวดศีรษะไมเกรน

ผู้ป่วยส่วนหนึ่งได้รับการวินิจฉัยเป็นไมเกรนทั้งที่ไม่ใช่ ถ้าได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องได้รับการรักษาที่ตรงจะช่วยลดอาการปวดศีรษะได้ดีกว่าในผู้ป่วยบางรายอาการปวดรุนแรง ทำให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง

สาเหตุของอาการปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์
ปัจจุบันมีข้อมูลว่าโรคนี้เกิดจากการทำงานผิดปกติของสมองส่วนไฮโปทาลามัส

สัญญาณอันตราย อาการปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์
โรคปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ พบบ่อยในผู้ชาย อายุที่พบเฉลี่ยประมาณ 40 ปี แต่อายุน้อยกว่านี้ก็สามารถพบได้ และระยะหลังมานี้สามารถพบในผู้หญิงได้ไม่น้อยเช่นกัน

ลักษณะการปวดสามารถสังเกตได้ ดังนี้

-ปวดศีรษะรุนแรง โดยเฉพาะที่รอบเบ้าตา หรือขมับข้างใดข้างหนึ่ง
-ปวดศีรษะร่วมกันกับมีอาการของระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น
ตาแดง
น้ำตาไหล
เปลือกตาบวม
คัดจมูกข้างเดียวกับที่ปวด
มีระยะเวลาปวดศีรษะราว 15 นาทีจนถึงสามชั่วโมง
มักมีอาการปวดศีรษะเวลาเดิมๆ ของวัน เช่น มักปวดตอนสิบโมงเช้า ตีหนึ่ง เป็นต้น

อาจมีอาการปวดแบบนี้ได้ตั้งแต่วันเว้นวันจนถึง 8 ครั้งต่อวัน และปวดไปเช่นนี้ติดต่อเกือบทุกวัน ไปเป็นอาทิตย์ จนถึงสองสามเดือนแล้วหาย และจะวนกลับมาเป็นอีกในช่วงเวลาเดิมๆ ของปีถัดๆ ไป ลักษณะที่มีปวดติดต่อกันเป็นช่วงๆ แบบนี้จึงเป็นที่มาของชื่อ คลัสเตอร์